The Sheltering Sky (UK,Italy,1990)

นักท่องเที่ยว จะคิดถึงบ้านทันทีที่ถึงจุดหมาย แต่นักเดินทางจะคิดว่าทุกที่ๆ ไปคือบ้าน

All Is Lost (US,2013)

บางครั้งเราก็ต้องสูญเสียทุกสิ่ง เพื่อที่จะได้ชีวิตที่สมบูรณ์คืนมา

The Searchers (US,1956)

จำได้ว่าผมดูหนังเรื่องนี้ครั้งแรก ตอนครูเอามาเปิดเป็นเรื่องแรกในวิชาตัดต่อ

The Rover (US,2014)

The Rover (US,2014) หนังแอ็คชั่นโร้ดมูวี่ดิสโทเปียยิงกันเลือดสาด ในโลกยุคที่ความศิวิไลซ์ล่มสลาย คนถือปืนคือคนถือกฎ โลกที่เราเลิกเชื่อกันไปแล้วว่า ความดีงามยังคงเหลืออยู่ เรื่องราวของ เอริค ชายหนุ่มผู้โดดเดี่ยว ใจแข็งไม่แคร์ใคร เดินทางตามลำพังในทะเลทรายอันแห้งแล้ง ออกตามล่าแก็งค์โจรที่ขโมยรถของเขาไป โดยจับน้องชายหัวหน้าโจรใสบื้อที่เขาช่วยชีวิตไว้เป็นคนนำทาง เป็นหนังที่ดูแล้วให้ความรู้สึกเหมือนล่องลอยอยู่ในอวกาศ ฉากทะเลทรายและท้องฟ้าอันเวิ้งว้าง นี่ถ้าเปลี่ยนเป็นจักรวาล มันคือการผจญภัยของ โอบีวัน เคนโนบี กับ ฮัน โซโล ภาคซีเรียสชัดๆ การเลือก โรเบิร์ต เอ็ดเวิร์ด แพตตินสัน มาเล่นเป็นเหมือนทูตสวรรค์แห่งความดีงามของเรื่อง มันทั้งดีและก็งดงาม...น่ารั้วก น่าร้วก ถ้าถอดตัวแปรความขึงขังจริงจัง ยิงกันเลือดสาดในสมการของหนังดิสโทเปีย ในสายตาเรานี่มันคือหนังโบรม๊านซ์ชัดๆ เรื่องรักวุ่นวายของเมะเย็นชา กะเคะใสๆ สรุปเป็นหนังคาวบอยยุคใหม่ที่มีเรื่องน้อยๆ จับใจด้วยการแสดงระดับว่าที่ออสการ์ทั้งของ พี่กาย เพียรซ์ และน้องโรเบิร์ต ที่เมคอัพออกมาได้เหมือน จัสติน ทิมเบอร์เลค ม้ากมากฮะ

The Hobbit: An Unexpected Journey (US,2012)

ชีวิตจริงอยู่ที่ข้างนอกนั่น บิลโบ

Interstellar (US,2014)

ความรักไง ที่สามารถเจาะทะลุมิติ ข้ามผ่านเวลาและสถานที่ได้

Pompeii (US,2014)

หลังจากเห็นเมืองปอมเปอีถูกชุบชีวิต และกล้ามท้องซิกแพคลงไฮไลท์ของน้อง จอน สโนว์ เอ๊ย คีท แฮริงตัน ในช่วงเปิดเรื่องจนฟินแล้ว เราก็ดูหนังเรื่องนี้ด้วย Speed 2x บ้าง 4x บ้าง จนจบเรื่อง ช่างเป็นหนังที่ไม่มีอะไรน่าจดจำจริงๆ ปล. โชคดีที่ไม่ได้ดูในโรง ไม่งั้น...

Thor: The Dark World (US,2013)

ดู Thor: The Dark World จบไป ไม่รู้สึกว่ามีอะไรต้องพูดถึงหนังเลย นอกจาก นาตาลี พอร์ตแมน สวยแจ่ม และ คริส เฮมเวิร์ธ ช่างน่าหลงใหลอะไรเช่นนี้

As I Lay Dying (US,2013)

My father used to say that the reason for living was to get ready to stay dead a long time. - William Faulkner As I Lay Dying เป็นหนังรสขื่น กำกับโดยหนุ่มหน้าหวาน เจมส์ ฟรังโก้ ที่ดัดแปลงมาจากวรรณกรรมอมตะของ วิลเลียม โฟล์คเนอร์ ปี 1930 เรื่องราวของครอบครัวบ้านนอก พ่อและลูกทั้งห้าที่พยายามจะพาศพแม่ไปฝังในเมือง ดูจากในเน็ตใครก็ว่าเป็นหนังสือของนักอ่านคอแข็งเท่านั้น เพราะเล่าเรื่องผ่านมุมมองของคน 15 คน ที่บางคนมีภาษากระท่อนกระแท่น บางบทก็พูดจาราวบทกวี บางบทก็ออกมาจากปากคนพูดไม่รู้เรื่อง อ่านจบก็มึนตึบกันไป แต่มันกลับเป็นหนังสือโปรดของคนในโลกจำนวนมาก เวอร์ชั่นหนังก็แสนเข็ญเหมือนกันในทีแรก แต่ส่วนตัวพอปรับตัวสักพักก็สนุกลุ้นไปกับตัวเรื่องและวิธีเล่านะ นี่เป็นหนังเดินทางผจญภัยดราม่าสไตล์จัดหนัก ที่อัดแน่นด้วยภาพธรรมชาติสวยๆ กล้องก็แทบไม่ได้จัดไฟเพิ่มเลย การแสดงก็ไม่มีที่ติ สิ่งที่ดีอีกอย่างคือดนตรีประกอบ ที่เข้ากับไดอะล็อกคล้ายบทกวี...

47 Ronin (US,Japan,2013)

โรนิน คือซามูไรไร้สังกัด 47 Ronin เป็นตำนานการแก้แค้นศตรูผู้สังหารเจ้านายของ โรนิน 47 คน ในยุคเอโดะ ศตวรรษที่ 17 ของญี่ปุ่น หนังคิดเรื่องของ ไค โรนินคนที่ 47 ใส่เพิ่มเข้าไป ไค เป็นเด็กหนุ่มที่หนีมาจากป่าปีศาจ ตกหลุมรักกับเจ้าหญิง พลัดพรากจากกัน และสุดท้ายก็กลับมาแก้แค้นพร้อมกับช่วยเหลือเจ้าหญิงจากศตรูและแม่มดร้าย...อืมพล็อตเชยเฉิ่มโบ๊ะทีเดียว และเหมือนเดิม เราไม่เคยชอบหนังญี่ปุ่นพูดอังกฤษสักเรื่อง เรื่องนี้ก็ไม่เว้น คีนู รีฟ ก็ดูชราภาพเกินกว่าจะไปสู้เป็นซามูไรฟิตเปรี๊ยะ และเล่นเป็นหนุ่มฮอร์โมนรักแรกพุ่ง สิ่งที่ชอบในหนังเรื่องนี้ ก็พอมีนะ อย่างเช่น Visual Effects แปลกตาในบางฉาก และการแสดงเช้งวับของอีหนู รินโกะ อาซาโนะ นางเอกหน้าหมวยจากเรื่อง Norwegian Wood และ Pacific Rim ที่เรื่องนี้รับบทเป็นแม่มดร้ายสุดเอ็กส์ น้องเล่นหูเล่นตาได้แซ่บทีเดียว สรุปใครที่ชอบละครจักรๆ วงศ์ๆ คงชอบหนังเรื่องนี้ได้ไม่ยาก มีฉากไปขออาวุธจากพระเจ้าตาด้วยนะเธอ ปล. ดูแล้วอยากจับ คีนู รีฟ โกนเคราตลอดเวลา

The Last Days (Spain,2013)

The Last Days เป็นหนังโลกแตกทุนสูงจากสเปน เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อไวรัสชนิดหนึ่งแพร่ระบาดในโลกจนทำให้คนไม่สามารถออกไปนอกบ้านหรือตึกได้ หลังผ่านไปสามเดือน เราติดตามเรื่องของโปรแกรมเมอร์หนุ่มซึ่งติดอยู่ที่ทำงาน จนสามารถขุดทะลุเข้าไปในอุโมงค์รถไฟใต้ดิน และต้องผจญภัยจากมนุษย์กันเองนี่แหละ เพื่อที่จะกลับไปหาเมียที่บ้าน ไอเดียของเริ่มต้นของหนังเรื่องนี้ก็เกร๋ๆ ไม่เบานะ ภาพวันโลกแตกก็ตื่นตาใช้ได้ แต่หนังสิ กลับเล่าได้ย้วยยาดมาก เราว่าสิ่งที่หนังขาดคือ Subplot ดีๆ แถมตอนจบก็เสี่ยวซะ สรุปว่า หนังฟอร์มดีจากสเปนเรื่องนี้สอบไม่ผ่านนะ

Gatchaman (Japan,2013)

กลุ่มยอดมนุษย์ 5 คนที่ต่อสู้กับมนุษย์ต่างดาวที่บุกโลก