Supernova (UK,2020)

Oh God! อีโจ้ หาเรื่องให้ตัวเองชัดๆ แค่เริ่มดูไปสัก 5 นาทีแรก แล้วพอรู้ว่าเป็นหนังเกี่ยวกับอะไรก็เริ่มน้ำตาไหลละ แล้วพอตอนที่หนังมันพีคๆ นะ นี่ร้องไห้เป็นหมาเลยครับ เหอะๆ

เรื่องราวของ แซม ชายหนุ่มผู้กำลังจะสูญเสียคนรักไปกับโรคร้าย ที่เริ่มมีอาการความจำเสื่อมระยะสุดท้าย เขาสองคนเลือกช่วงเวลานี้เช่ารถบ้านเดินทางไปหาครอบครัว และก็เพื่อเปิดคอนเสิร์ตเดี่ยวเปียโนของแซมด้วย

สำหรับเราชื่อหนัง Supernova นี่มันใช่สุดๆ อ่ะ การระเบิดของดาวฤกษ์ดวงใหญ่เมื่อมันถึงวันที่หมดอายุขัย ดาวฤกษ์ของหนังเรื่องนี้มันคือทัสเกอร์ คนรักของแซมนั่นแหละที่กำลังถึงวันสุดท้ายของชีวิต และเมื่อมันเกิดระเบิดมันจะปล่อยแสงวาบสวยงามประดับท้องฟ้า ความรักของแซมกับทัสเกอร์ก็เช่นเดียวกันครับ มันเดินทางมาถึงจุดจบแล้ว

บ้าป่าวเนี่ย หนังห่าอะไรฟระ มันจะเศร้าหนักได้ขนาดนี้ ดูไปมันก็อดคิดถึงเรื่องตัวเองไม่ได้หรอกนะ การที่ต้องตายจากกันกับคนรัก นี่เป็นอะไรที่เรากลัวที่สุดเลยในชีวิต ก่อนหน้านี้ก็เพิ่งสอนนักเรียนในคลาสเขียนว่าให้เขียนถึงสิ่งที่ตัวเองกลัวที่สุด สิ่งนั้นของเราก็คือการตายจากเน็ตนี่แหละ บ้าว่ะ เอาตัวเองมาดูหนังไรเนี่ย

มันจะอยู่ยังไงอ่ะ ถ้าไม่มีกันและกันอีกต่อไปแล้ว ชีวิตที่ alone มันเป็นยังไง แค่นึกตาม แค่จะก้าวขาเดินยังทำไม่ได้เลย โอย หรือในทางกลับกัน ถ้าเป็นเราตายก่อน อีกคนจะอยู่ยังไง บ้าป่าว ไม่เคยนึกถึงเรื่องนี้สักเท่าไหร่ เพราะกลัวที่จะนึกถึงไง แต่ก็รู้ทั้งรู้ว่าสักวันการพรากจากกันเป็นเรื่องธรรมชาติที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้หรอก แต่มันยังทำใจไม่ได้เลยจริงๆ ครับ

หนังเปิดทีละหน่อยถึงอาการหลงลืมของทัสเกอร์ที่แซมคอยเฝ้าสังเกต ติดกระดุมไม่ได้บ้าง พาหมาไปเดินเล่นแล้วกลับมาที่เดิมไม่ได้ การอ่านหนังสือไม่ออกละ และเลวร้ายที่สุดก็ตรงที่เขียนหนังสือไม่ได้นี่แหละ ทัสเกอร์เป็นนักเขียนนะ โอย การเป็นนักเขียนที่จำวิธีเขียนไม่ได้ จำตัวอักษรไม่ได้ นี่ก็แย่ พัง โหดสัสแล้ว แต่การที่เรากำลังจะจำคนตรงหน้าไม่ได้ ว่าคือคนที่รักกันมาเป็นสิบปี มันต้องการความเข้มแข็งแค่ไหนกันนะ

รู้ล่ะว่า สักวันชีวิตก็ต้องแยกจากกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง การกลัวมากก็เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ แต่สิ่งที่หนังให้เราเห็นยังมีอีกพาร์ต นั่นคือความเข้มแข็ง ความกล้าหาญที่จะ Letting it go การปลดปล่อยให้อีกฝ่ายเป็นอิสระ การอยู่ด้วยกันในวันที่ยากลำบากที่สุด และทั้งหมดนั่นทำได้ ก็เพราะว่าความรักคำเดียวเลย

ถ้ารักก็จะผ่านทุกสิ่งได้มันเป็นอย่างนี้ แม้แต่เรื่องที่น่ากลัวที่สุด เรื่องที่ยากที่สุด เรื่องที่ปกติไม่คิดว่าจะทำได้ แต่ถ้ารัก มันจะทำได้ มันจะมีหนทาง มันจะงดงาม มันจะไม่หยุด และสิ่งที่ยากที่สุดเสมอสำหรับความรัก มันก็คือการปล่อยให้อีกฝ่ายเป็นอิสระนั่นแหละ

“รู้ไหม เราทุกคนคือบางส่วนของดวงดาวทั้งนั้น” ทัสเกอร์ผู้ชอบดูดาวสอนหลานสาว

“ไม่เข้าใจอ่ะค่ะ”

“กาลครั้งหนึ่ง นานๆ แสนนาน ล้าน ล้าน ล้าน ล้าน และอีกหลายล้านปี ตอนที่ดาวมันระเบิด แล้วมันก็เดินทางมาโลกนะ แล้ววันหนึ่งมันก็กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของเรานี่แหละ

เราทุกคนมีส่วนประกอบหลายๆ เสี้ยว มาจากดาวหลายๆ ดวงด้วยกันทั้งนั้น”

“หนูไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่ก็ไม่กล้าถามมากหรอกค่ะ แม่บอกว่าหนูขี้ถามมากไป”

“โอ้ เด็กน้อย คำถามในสิ่งที่เราไม่รู้อ่ะ เป็นสิ่งที่จะอยู่กับเราเสมอเลย สัญญากับลุงนะว่าหนูจะไม่มีวันหยุดถามคำถาม แม้ว่าแม่จะบอกให้หนูหยุดก็ตาม”

“หนูสัญญาค่ะ”

นี่คือหนังที่ทำให้เราได้ทดลองสมมุติว่าถ้าเราต้องสูญเสียเน็ตไปจริงๆ เราจะเป็นยังไงวะ ก็แน่ล่ะ คงพังราบคาบ คงแตกสลาย แต่ แต่ แต่

แต่มันจะแตกสลายไม่เหมือนแบบที่เราเคยคิดอ่ะ ถ้าวันนั้นมาถึง ไม่ว่าเราจะเป็นคนที่ไปก่อน หรือไปทีหลัง เราพอรู้แล้วว่าเราจะแตกสลายยับก็จริง แต่เราจะแตกสลายแบบซูเปอร์โนวา คือเมื่อเราแตกออก มันจะมีแสงที่งดงามที่สุดเปล่งประกายออกมา และเราก็จะกลับไปเป็นส่วนหนึ่งของดวงดาวในจักรวาลอีกครั้ง แล้วสุดท้ายมันจะเป็นสิ่งที่สวยงามที่สุดอย่างที่เราไม่เคยได้เห็นมาก่อนเลย

Leave a comment

Create a free website or blog at WordPress.com.

Up ↑